พระสมเด็จองค์สหายเทวดาจากหนังสือ'งดงามอลังการ
พระสมเด็จวัดระฆังโฆสิตาราม
(ขอบคุณรูปภาพจากเว็บ www.komchadluek.net )
ทั้งนี้ “พ.อ.(พิเศษ)ประจน กิตติประวัติ” อดีตนายทหารประจำกองบัญชาการทหารสูงสุด หรือ “ตรียัมปวาย” จัดทำเนียบชุดพระเครื่อง “เบญจภาคี” ขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๕ โดยเมื่อแรกเริ่มยังคงเป็นเพียง “ไตรภาคี” คือมีเพียง ๓ องค์เท่านั้น ประกอบด้วย “พระสมเด็จ” วัดระฆังโฆสิตาราม เป็นองค์ประธาน ซ้ายขวาเป็นพระนางพญา จ.พิษณุโลก และพระรอด จ.ลำพูน หลังจากนั้นจึงผนวก “พระกำแพงซุ้มกอ” กำแพงเพชร และ “พระผงสุพรรณ” สุพรรณบุรี เข้าเป็นชุดเบญจภาคี สุดยอดปรารถนาของนักสะสมพระเครื่องทั้งหลาย จากค่านิยมกันในหลักพันบาท และทะยานเข้าสู่หลักล้านในปัจจุบันนี้
ในจำนวนพระสมเด็จที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ที่สร้างไว้จำนวนมากถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ มีไม่กี่องค์ที่มีชื่อเสียงอยู่ในระดับแถวหน้า เช่น “องค์เสี่ยหน่ำ” อย่าง “องค์ลุงพุฒ” “องค์ขุนศรี” “องค์เล่าปี่” “องค์กวนอู” “องค์บุญส่ง” “องค์เจ๊แจ๋ว” “องค์เจ๊องุ่น” “องค์ครูเอื้อ” “องค์เสี่ยดม” และ “องค์มนตรี” ล้วนมีการเช่าการขายกันองค์ละหลายสิบล้านบาททั้งสิ้น
สำหรับภาพพระองค์ครูฉบับนี้เป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่อีกองค์ ที่มีชื่อว่า “พระสมเด็จองค์สหายเทวดา” ในความครอบครองของ อ.อาวุธ แก้วเนียม เจ้าของฉายา “อ.อาวุธ สหายเทวดา” เจ้าของและพิธีกรรายการทีวี “ไปดูมา พาไปดู” และนายกสมาคมพระเครื่องและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความสันติสุขของสังคมโลก ที่ปรากฏอยู่หน้าปกจากหนังสือ “งดงามอลังการ พระสมเด็จแห่งประเทศไทย” ที่สำคัญ คือ เป็นหนังสือพระสมเด็จอีกเล่มหนึ่งที่ขอเลข “ISBN” ซึ่งหมายความว่า หนังสือเล่มนี้จะปรากฏเป็นข้อในการศึกษาพระสมเด็จในหอสมุดแห่งชาติ
ในการจัดทำหนังสือ “งดงามอลังการ พระสมเด็จแห่งประเทศไทย” อ.อาวุธ สหายเทวดา ได้ฟอร์มทีมงานขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า “กลุ่มสภาสมเด็จแห่งประเทศไทย” (สสดท.) จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คือ มีการขนานนามพระสมเด็จตามผู้ที่ครอบครองหลายสิบองค์ เช่น พระสมเด็จองค์นัทสองแคว พระสมเด็จองค์สมปรารถนา พระสมเด็จองค์วิษณุ พระสมเด็จองค์อาจารย์วี พระสมเด็จองค์นเรศวร พระสมเด็จองค์ลุงยงค์ พระสมเด็จองค์โสฬส และพระสมเด็จองค์ทศเมืองชล เป็นต้น
อ.อาวุธ สหายเทวดา บอกว่า หลักการพิจารณาพระสมเด็จมี ๔ ข้อ ง่ายๆ คือ ๑.รู้จักพิมพ์พระ เห็นปุ๊บบอกได้เลยว่านี่เขาเรียกว่าพิมพ์อะไร ๒.รู้จักเนื้อพระ ๓.รู้จักธรรมชาติความเก่า ทั้งนี้ต้องดูให้ได้ว่าเก่าจริงหรือทำให้เก่า และ ๔.รู้จักเนื้อ การจับตัวของมวลสารในเนื้อพระว่ามีปฏิกิริยาใดๆ เกิดขึ้นบ้าง พระที่มีอายุกว่า ๑๐๐ ปี จะต้องมีปฏิกิริยาของมวลสารและสภาพอากาศ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าพระสมเด็จมีการทำเทียมขึ้นมาภายหลังจำนวนมาก และเราต้องเข้าใจในความหมายของคำว่า “แท้คือไม่เทียม ไม่ใช่พระแท้คือพระที่ซื้อหากันในตลาด หรือเซียนใหญ่ หรือที่เรียกว่า พระที่ซื้อหากันในตลาด คือพระแท้เท่านั้น”
พระสมเด็จที่แท้จริงในความหมายของ อ.อาวุธ สหายเทวดา คือ พระแท้ที่ทำกันในยุคสมเด็จโต นั่นคือแท้โดยไม่มีข้อกำหนด ดังที่ตลาดพระกำหนดขึ้นมา เป็นพระที่แท้เพราะทำมาอย่างจริงแท้ พระสมเด็จมีแท้ ๒ ประเภท คือ พระแท้ที่สมเด็จโตสร้าง กับพระแท้ที่ตลาดพระเครื่องเช่าซื้อกัน สิ่งหนึ่งที่เกิดในวงการคือ คนจำนวนไม่น้อยแขวนพระสมเด็จแล้ว ธุรกิจชีวิตการงานดีขึ้น แต่เมื่อเอาไปให้เซียนพระส่องดูกลับกลายเป็นพระสมเด็จปลอม แล้วจะให้ถอดสมเด็จองค์นั้นทิ้งเสียหรือ
ขอบคุณบทความจาก :
http://www.komchadluek.net/detail/20160227/223142.html
หากท่านต้องการของแท้ ท่านเลือกถูกแล้วครับ "ที่มาที่นี่"
รวมประสบการณ์กุมารทองเครื่องรางของแท้100%
การพบเจอสิ่งที่มองไม่เห็น การบูชาแล้วได้ผลจริง
"ไม่สร้างเรื่อง ไม่มีการแต่งขึ้นเอง เรื่องจริงล้วนๆ"
(จากการรีวิวบางส่วนเท่านั้นครับ)
*****โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ความเชื่อล้วนๆครับ*****
หน้าที่เข้าชม | 3,565,914 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,202,628 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 4 ต.ค. 2568 |